
สงสัยกันไหมครับ ว่านักเขียนโฆษณามีเคล็ดลับเด็ด ๆ อะไรที่สามารถเขียน Sale Page มัดใจผู้อ่าน จนเปลี่ยนจากผู้อ่านกลายเป็นลูกค้าได้?
ก่อนที่คุณจะเป็นนักเขียนโฆษณาที่สามารถเขียน Sale Page จนมัดใจผู้อ่านได้ คุณจะต้องเริ่มจากการมีมุมมองเดียวกัน คิดแบบเดียวกันกับนักเขียนโฆษณามืออาชีพเหล่านั้นเสียก่อน
การเรียนรู้ Mindset ของนักเขียนโฆษณาที่ประสบความสำเร็จนั้นไม่ยากเลยครับ เพราะผมได้จัดอันดับ 10 Mindset การเป็นนักเขียนโฆษณาแบบมืออาชีพ ไว้ให้คุณได้ลองศึกษาและลองทำตามแล้ว
เชื่อได้เลยครับว่าหลังจากคุณอ่านครบ คุณจะมี Mindset แบบนักเขียนโฆษณามืออาชีพได้อย่างแน่นอน
ทำไมเราต้องเริ่มต้นจากการเรียนรู้ Mind Set ของนักเขียนโฆษณามืออาชีพก่อน?
เพื่อตอบคำถามนี้ เราจึงต้องเรียนรู้ความสำคัญ Mindset ของกันก่อนครับ ถึงจะสามารถเชื่อมโยงได้ถูกต้องว่า Mindset มีความเกี่ยวข้องกับการเขียน Sale Page เพื่อการโฆษณา จริงหรือไม่?

Mindset มีความสำคัญอย่างไร?
Mindset (ทัศนคติทางจิตใจ) หรือ กระบวนการความคิดที่คอยขับเคลื่อนให้เราเปิดใจค้นหาความสามารถของตนเอง และชี้นำให้ฝึกฝนศักยภาพนั้นอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเป็นเหตุผลหลักที่ผลักดันให้เราพัฒนาตนเองจนสามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญของชีวิตได้
ดังนั้น Mindset จึงเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการพัฒนาความสามารถของตนเองเป็นอย่างมาก ในด้านการเขียนโฆษณาเพื่อดึงดูดลูกค้า จึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน Mindset ของผู้เขียนให้เป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง ก่อนที่จะเริ่มต้นฝึกฝนพัฒนาการเขียนโฆษณาให้ชำนาญจนสามารถก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จได้ในอนาคต
เริ่มมองเห็นจุดเชื่อมโยงจากการเรียนรู้ความสำคัญของ Mindset กันแล้วใช่ไหมครับ
แล้วตอนนี้ คุณพร้อมที่จะปรับ Mindset ของตนเอง และเปลี่ยนเป็นคนใหม่ที่ไฉไลมากกว่าเดิม หรือยังครับ?

10 Mindset การเป็นนักเขียนโฆษณาแบบมืออาชีพ
1.) ไม่เกี่ยวว่าสั้น หรือยาว สำคัญที่ต้องครบถ้วน
สิ่งสำคัญของการเขียน Sale Page เพื่อการโฆษณาที่ดี ไม่ใช่การเขียนที่มีเนื้อหายาวเหยียดหลายบรรทัด แต่เป็นการเขียนโฆษณาที่สามารถจบหน้า Sale Page ด้วยการ Call to Action เพื่อบอกช่องทางการติดต่อให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นการปิดท้ายการเขียนโฆษณาที่สมบูรณ์

2.) ไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนอ่านไหม มุ่งเขียนต่อไป
ในบางครั้งการเขียนโฆษณาก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเสมอไป แต่คุณไม่ต้องกังวล ต่อให้ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคต Sale Page ที่เราเขียนออกมาจะเป็นอย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่คุณสามารถรับรู้ได้อย่างแน่นอน นั่นคือ การเขียนที่เน้นปริมาณ จะทำให้คุณชำนาญการเขียนโฆษณามากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต เพราะการมองเห็น และแก้ไขปรับปรุงส่วนที่บกพร่องซ้ำ ๆ จะเป็นเครื่องผลักดันให้เกิดการพัฒนาในตัวคุณนั่นเอง
3.) เขียนให้เกิดประสิทธิผล โดยใช้หลัก 3R
Respect การตอบสนอง
เป็นการวัดผลจากผู้อ่านที่ทำตามสิ่งที่คุณเขียนลงไปใน Sale Page หรือทำให้ผู้อ่านเกิดความเชื่อถือในตัวคุณได้
เช่น ถ้าหากในคุณเขียน Sale Page เพื่อโฆษณา 30 วัน แล้วมีผู้อ่านติดตามอ่านจนครบทั้ง 30 วันได้ นั่นก็ถือว่า การเขียนโฆษณาของคุณสามารถสร้าง respect กับผู้อ่านได้แล้ว
Reliable การโต้ตอบระหว่างคุณและผู้อ่าน
เป็นการทำให้ผู้อ่านไว้ใจ โดยการมีปฏิสัมพันธ์พูดคุยกับผู้อ่าน ซึ่งจะเป็นจุดที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าผู้อ่านถูกใส่ใจ ทำให้ผู้อ่านเกิดความไว้ใจและเสพติดคุณ
เช่น ถ้าเป็นการเขียนโฆษณาลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ก็สร้างความน่าเชื่อถือจากการโต้ตอบกับผู้อ่านผ่านทางโซเชียลเป็นประจำ หรือการไปออกงานต่าง ๆ เพื่อพบปะกับผู้อ่าน เป็นต้น
Result การแสดงหลักฐานและพิสูจน์ให้ผู้อ่านเชื่อ
เป็นการเขียนที่มีการโชว์ผลลัพธ์ให้เห็น แสดงหลักฐาน และการพิสูจน์ในเรื่องที่เขียนให้ผู้อ่านทราบ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การเขียน Sale Page เพื่อการโฆษณาของคุณมีความน่าเชื่อถือ ส่งผลให้การเขียนโฆษณาเกิดประสิทธิผลได้มากขึ้น

4.) เขียนอย่างไรก็ได้ลูกค้าอย่างนั้น
เคยได้ยินคำว่า “เขียนอย่างไร ได้ลูกค้าอย่างนั้น” ไหมครับ
นี่คือคำกล่าวเพื่อบอกว่าคุณจะต้องเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับการเขียนโฆษณานั้น ถึงแม้สินค้าจะมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายเอาไว้แล้ว
แต่ทางเลือกที่ดีที่สุดก็คือ การเลือกใช้คำที่สุภาพไม่ว่าจะเป็นสินค้า หรือบริการใด ๆ ในฐานะผู้เขียน หรือแม้แต่ผู้ขายก็ควรยึดถือข้อนี้เอาไว้เช่นกันครับ
ตัวอย่างเช่น
โฆษณาเครื่องดื่มน้ำอัดลม หรือขนมเยลลี่สิครับ เพราะกลุ่มเป้าหมายของสินค้าเหล่านี้ คือ เด็กและวัยรุ่น การโฆษณาจึงใช้คำที่ดูทันสมัย ฟังแล้วรู้สึกสนุกสนานไปกับการเชิญชวน
แต่ถ้าเป็นโฆษณาผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีเอาไว้สำหรับดูแลผู้สูงอายุ ก็ควรเลือกใช้คำสุภาพที่ฟังแล้วเกิดความน่าเชื่อถือในสินค้าและบริการตามประเภทของโฆษณา
5.) ละเอียดอ่อนกับการเลือกคำ
อย่างที่นักเขียนทั่วไปทราบ การเลือกคำเป็นสิ่งที่สำคัญและต้องใช้ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากคำจะมีอิทธิพลต่อผู้อ่านแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ข้อความสละสลวย และสื่อความหมายได้ชัดเจนตรงตามที่ผู้เขียนต้องการได้อีกด้วย
ในการเขียนโฆษณาเองก็เช่นกัน ควรต้องเลือกใช้คำที่มีความเหมาะสมกับการเขียนโฆษณาจึงจะทำให้ Sale Page มีประสิทธิภาพมากที่สุด

6.) เขียนในเชิงบวกเสมอ
นอกจากคำจะมีผลต่อทุกสิ่งแล้ว การเขียนเองก็มีผลในการชักจูงความรู้สึกและอารมณ์ของผู้อ่านได้เช่นกัน
และแน่นอนว่าในการเขียนคอนเทนต์ในแง่บวกนั้น สามารถทำให้อารมณ์ของผู้อ่านเปลี่ยนไปในเชิงบวกได้ โดยการทำให้ผู้อ่านเกิดอารมณ์ในแง่บวกกับการเขียนโฆษณา Sale Page ของคุณได้นั้น จะช่วยส่งผลต่อการตัดสินใจในการซื้อสินค้าและบริการเพิ่มมากขึ้น
ดังนั้น นักเขียนโฆษณาควรเขียนโฆษณาให้อยู่ในเชิงบวกไว้เสมอ
7.) ช่วงขาย ก็บอกขายตรง ๆ ไม่อ้อมค้อม
ส่วนใหญ่มันจะอยู่ในช่วงท้ายของการเขียน Sale Page เป็นการเขียนโฆษณาเสนอขายสินค้าและบริการ
โดยจะเป็นการบอกข้อมูล และสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ ซึ่งอาจเสริมความน่าเชื่อถือของการเขียนโฆษณาด้วยการโชว์รีวิวในแง่บวกจากลูกค้าท่านอื่น เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจเนื้อหาอย่างชัดเจนและพร้อมที่จะทำการตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะเปลี่ยนจากผู้อ่านให้กลายเป็นลูกค้าได้ไหมก็ขึ้นอยู่กับข้อนี้เลยทีเดียวครับ

8.) No is Next
“ไม่ว่าใครก็เคยผิดพลาด“
เป็นเรื่องปกติที่นักเขียนโฆษณาทั่วไปต้องเจอ นั่นก็คือ การเขียนโฆษณาที่ออกมาอาจไม่ตรงเป้าหมาย แต่ไม่เป็นไรนะครับ ถ้าหากเขียนออกมาแล้วไม่ตรงเป้า ก็ให้เขียนใหม่ เพราะทุกการเขียนไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็มีทั้งการเขียนที่ออกมาดีและไม่ดีเสมอ
สิ่งสำคัญที่ผมอยากจะบอกก็คือ การเขียนใหม่ไม่ใช่การย่ำอยู่กับที่ แต่เป็นการเก็บความผิดพลาดที่เรามองเห็นนั้น นำกลับมาพัฒนาตนเอง และเริ่มเขียนใหม่ในครั้งต่อไปต่างหากครับ
9.) ไม่ปล่อยให้ลูกค้าหลุดมือไปเจ้าอื่น (Call to Action)
การเขียนโฆษณาที่คุณทุ่มเทลงไปใน Sale Page มากมายนั้น ท้ายที่สุดแล้ว คุณก็ต้องอยากให้ผู้อ่านที่เข้ามาเยี่ยมชมกลายเป็นลูกค้าในอนาคตใช่ไหมครับ แต่ถ้า Sale Page ของคุณไม่มี Call to Action ก็ไม่มีประโยชน์ และอาจทำให้คุณเสียลูกค้าไปได้
Call to Action จึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการเขียน Sale Page เพื่อการโฆษณา ส่วนใหญ่จะอยู่ช่วงท้ายของ Sale Page และมักใช้รูปแบบของปุ่มกดที่มีความโดดเด่นมากกว่าส่วนอื่น เพื่อดึงดูดความสนใจผู้อ่าน และนำผู้อ่านไปสู่ช่องทางการติดต่ออื่น ๆ เป็นการปิดการขายที่สมบูรณ์ที่สุด
10.) กระหายในผลลัพธ์
เมื่อคุณย้อนกลับไปแล้วพบว่าการเขียนโฆษณาในครั้งนั้นออกมามีผลตอบรับที่ไม่ดี และยังมองเห็นข้อบกพร่อง ให้คุณเก็บความผิดพลาดนั้นนำมาเขียนใหม่อีกครั้ง
เพราะนักเขียนโฆษณามืออาชีพที่ประสบความสำเร็จแล้วนั้น ต้องอดทนก้าวผ่านความผิดพลาดแบบที่ทุกคนต้องเจอเป็นร้อยครั้งพันครั้ง กว่าจะสามารถพัฒนาการเขียนโฆษณาของตนเองจนขึ้นสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญมาได้

ดังนั้น ไม่ต้องกลัวความผิดพลาด คุณยังมีโอกาสอีกมากมายในอนาคต เพียงแค่ฝึกฝนเขียนอย่างต่อเนื่อง แล้วคุณจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเขียน Sale Page เพื่อการโฆษณามากขึ้นเองในอนาคต

ในด้านการเขียนโฆษณานั้น Mindset คือพื้นฐานความคิดที่สำคัญต่อการพัฒนาทักษะ ซึ่งการเรียนรู้พื้นฐานที่ดีตั้งแต่เริ่มต้น ย่อมส่งผลดีต่อการเขียนโฆษณาในอนาคต ดังที่กล่าวมา หากคุณทำครบทุกข้อใน 10 Mindset แบบนักเขียนโฆษณามืออาชีพ นี้ได้ สิ่งนี้ก็จะทำให้คุณมีมุมมองและความคิดเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

จงปรับใช้ความรู้นี้ให้กลายเป็นพลังในการผลักดันตัวคุณ และอย่าลืมว่าการฝึกฝนตนเองอย่างสม่ำเสมอ คือ หนทางไปสู่การเป็นนักเขียนมืออาชีพที่ดีที่สุด ดังนั้นอย่าย่อท้อต่อความผิดพลาด และเริ่มใหม่อีกครั้งจนกว่าคุณจะประสบความสำเร็จ!
ทุกคนได้อ่านมาจนถึงช่วงท้ายของ 10 Mindset แบบนักเขียนโฆษณามืออาชีพ แล้วนะครับ ทุกคนอาจจะรู้สึกว่า การเปลี่ยน Mindset ให้เป็นไปตามที่ผมได้นำเสนอมานั้นยาก และต้องใช้เวลามากเกินไปสำหรับงานที่รอเวลาไม่ได้ของคุณ
ติดต่อมาที่เราสิครับ เรามีทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยเหลือคุณในด้านการเขียนโฆษณาดึงดูดลูกค้า ให้สินค้าของคุณพิเศษกว่าของเจ้าอื่น
ติดต่อเราได้ เพียง คลิ๊ก 🔻
IMPEL MARKETING บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์
IMPEL MARKETING จากประสบการณ์ ด้านการตลาดออนไลน์มากกว่า 10 ปี
เราจะให้คำปรึกษาถึงแก่นการทำตลาดออนไลน์ให้คุณมียอดขายถึงขีดสูงสุดในทุกประเภทสินค้าและบริการ
- รับปรึกษาการตลาดสำหรับแบรนด์
- บริการโฆษณาออนไลน์
- รับทำเว็บไซต์
- รับเขียน App และระบบ IT สำหรับธุรกิจ SME
- รับทำ Content Marketing
- รับออกแบบกราฟิก / ทำสื่อสิ่งพิมพ์
- รับตัดต่อ ถ่ายภาพ / VDO / สื่อภาพเคลื่อนไหว
- รับแปล VDO หรือเอกสารภาษาอังกฤษเป็นไทย
การันตีผลงานทีมงานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีเราสร้างยอดขายให้ธุรกิจมากกว่า 10 แบรนด์ ยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท