7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging

นาทีนี้ ธุรกิจไหนจะมาแรงได้เท่าธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging ได้อีก !

     ใครจะไม่รู้จัก ธุรกิจที่มาแรงแบบฉุดไม่อยู่ อย่างธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging

     ยิ่งในยุคที่ธุรกิจคลินิกกำลังเป็นที่น่าสนใจแบบนี้ เหล่าผู้ทำธุรกิจก็ต้องสรรหาวิธีที่จะทำให้คลินิกของตนเองเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้มากขึ้นใช่ไหมครับ

     เพื่อเป็นการแนะนำเส้นทางในการเอาชนะด้วยการตลาดออนไลน์ ผมจึงขอแนะนำ การสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingให้ทุกคนรู้จักกันครับ

     ด้วย Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกนี้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้ และทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น

     ดังนั้น  เพื่อที่เราจะสามารถสร้าง และนำ Sale Page มาใช้ประโยชน์ด้านการตลาดออนไลน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

     เราก็มาทำความรู้จักกับการสร้าง Sale Page ด้วย 7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging กันครับ

7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging

     1. กระตุ้นความต้องการจากการตั้งหัวข้อ

     ทุกคนเคยได้ยินเกี่ยวกับ คลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging กันผ่านหูผ่านตามาบ้าง

     คลินิกประเภทนี้ เป็นคลินิกที่มีจุดเด่นในด้านการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ด้วยศาสตร์การแพทย์ “เวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-Aging Medicine)

     และมีเป้าหมายเพื่อตรวจหาความเสี่ยงของการเกิดโรค รวมถึงวางแผนป้องกัน และชะลอความเสื่อมของร่างกายให้แก่ลูกค้า แม้ลูกค้าจะมีอายุจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม

     ดังนั้น การจะกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความสนใจได้ คุณจะต้องเลือกหัวข้อที่เป็นปัญหาที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคของลูกค้า หรือการดูแลสุขภาพร่างกายที่คนทั่วไปอาจไม่ได้ให้ความสำคัญ

     โดยการกำหนดหัวข้อของ Sale Page นั้น สามารถขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการดึงดูดความสนใจ

เช่น 

     หากกลุ่มเป้าหมายของคุณ คือ ผู้ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 60-65 ปีขึ้นไป มีความเสี่ยงเรื่องภาวะสมองเสื่อมจากโรคอัลไซเมอร์ คุณจึงอาจเลือกการนำเสนอหัวข้อที่เกี่ยวกับเรื่องโรคอัลไซเมอร์ตามที่กลุ่มเป้าหมายมีความกังวล ดังตัวอย่างนี้

“หากคุณสงสัยว่าคนใกล้ตัวกำลังมีภาวะสมองเสื่อม จะสังเกตความผิดปกตินั้นอย่างไร”

“โรคอัลไซเมอร์ รักษาได้จริงหรือไม่ ?”

“กิจกรรมกระตุ้นสมอง ชะลออัลไซเมอร์”

“เช็คให้แน่ใจ แค่หลงลืมตามวัย หรือเป็นอาการก่อนเกิดโรค !”

“อาหารบำรุงสมอง ชะลอความเสื่อม ป้องกันอัลไซเมอร์ มีอะไรมาดูกัน”

หรือ หากมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ที่มีโรคเฉพาะอย่าง โรคนอนไม่หลับ (insomnia) ก็สามารถเลือกหัวข้อที่มีความเกี่ยวข้องกับโรคได้ ดังตัวอย่างนี้

“นอนไม่หลับกับวัยทอง มีวิธีรับมือและแนวทางการรักษาอย่างไร”

“โรคนอนไม่หลับกับโรคประจำตัว ความสัมพันธ์ที่ควรรู้”

“ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับ ตอบคำถามที่พบบ่อย”

“โรคนอนไม่หลับ สัญญาณเตือนภัยสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม”

“ภาวะความเครียด อาจทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับ จริงหรือไม่ ?”

เป็นต้น

     จากทั้งตัวอย่างในข้างต้น จะสังเกตได้ว่า นอกจากจะสามารถเลือกหัวข้อบทความจากหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับโรคได้แล้ว

     ยังสามารถตั้งชื่อหัวข้อให้อยู่ในรูปแบบของประโยคต่าง ๆ ได้ แต่ที่นิยมส่วนใหญ่มักจะเป็น ประโยคคำถาม หรือประโยคที่สั้นและกระชับได้ใจความ

     แต่สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนขึ้นอยู่กับผู้สร้าง Sale Page ว่าจะกำหนดหัวข้อให้ออกมาเป็นอย่างไร จึงจะเหมาะสมต่อการใช้งาน และการนำเสนอข้อมูลของผู้สร้างเอง

     2. บรรยายปัญหาและนำเสนอการแก้ไขปัญหา

     เมื่อมีหัวข้อที่มาจากการคัดเลือกหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการเกิดโรค หรือการดูแลสุขภาพร่างกายที่คนทั่วไปอาจไม่ได้ให้ความสำคัญ แล้วทำอย่างไรต่อ ?

     สิ่งที่คุณต้องทำต่อไป คือ การบรรยายเกี่ยวกับปัญหาที่ลูกค้ากำลังสงสัยหรือเผชิญอยู่

     โดยคุณจะต้องอธิบายให้ลูกค้าทราบถึงความเสี่ยง และสาเหตุต่าง ๆ ที่อาจทำให้เกิดโรคอย่างละเอียด รวมไปถึงอธิบายผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เมื่อเป็นโรคเหล่านั้นด้วย

     เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าฉุกคิด และสังเกตตนเอ งหรือคนรอบข้างมากขึ้นว่า จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคเหล่านั้นหรือไม่ และช่วยกระตุ้นให้เกิดความใส่ใจในการป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหล่านั้นมากขึ้น

เช่น

     หัวข้อคือ “ ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับ ตอบคำถามที่พบบ่อย ”

     จะต้องมีคนสงสัยแน่ ๆ เลยว่าการนอนไม่หลับ เกิดจากสาเหตุอะไร ทำไมบางคนอายุน้อยก็เป็น อายุมากก็เป็น

     จริง ๆ แล้วการเป็นโรคนอนไม่หลับ สามารถเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่และมีเพศใดก็ตาม

     เพราะโรคนอนไม่หลับ สามารเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจัย และในบางครั้งเอง เราก็ไม่สามารถควบคุมปัจจัยเหล่านั้นได้เช่นกัน

 เช่นปัจจัยเหล่านี้

  • ปัจจัยทางกาย: โรคเรื้อรัง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ อาการปวดเรื้อรัง ฯ
  • ปัจจัยทางจิต: ความเครียด วิตกกังวล การมีภาวะซึมเศร้า ฯ
  • ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม: เสียงรบกวน แสงสว่าง อุณหภูมิ ฯ
  • พฤติกรรม: การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ การนอนไม่เป็นเวลา ฯ

     ซึ่งการเป็นโรคนอนไม่หลับ สามารถสร้างผลกระทบต่อคนเราได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นร่างกายอ่อนเพลียตลอดเวลา ไม่สดชื่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น ความจำเสื่อม และยังอาจมีผลกระทบต่อการทำงาน ความสัมพันธ์ ฯ ได้อีกมากมายเลย

     เป็นต้น

      เพราะใคร ๆ ก็ไม่ต้องการให้ตนเองเป็นโรค

     ดังนั้น เราจึงต้องใช้ความกังวลเหล่านี้ ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกสนใจในเนื้อหา และต้องการทราบวิธีแก้ไขปัญหาในหัวข้อถัดไปของเราให้ได้

     หลังจากกระตุ้นลูกค้าแล้ว ก็ต้องตามด้วยการบอกวิธีการป้องกันปัญหา พร้อมกับการนำเสนอบริการของคลินิกไปด้วย

     ซึ่งการแก้ไขปัญหาของคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging ก็คือ การลดความเสี่ยง และป้องกันไม่ให้เกิดโรคในอนาคต

     ในส่วนของการบอกวิธีการแก้ไขปัญหานี้ ควรมีการบรรยายถึงรายละเอียดของการป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยผนวกการนำเสนอบริการของคลินิกให้เชื่อมโยงควบคู่กันไปด้วย

เช่น

     แต่ทุกคนรู้รึเปล่า เราสามารถป้องกันการเกิดโรคนอนไม่หลับได้นะ !

     การป้องกันการเป็นโรคนอนไม่หลับ

     1.) ปรับพฤติกรรมการนอน

  • เข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา : พยายามเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลาทุกวัน รวมไปถึงวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วย สิ่งนี้จะช่วยสร้างนาฬิกาชีวิตภายในร่างกายให้คุ้นเคยกับการนอนหลับแบบเป็นเวลา
  • จำกัดการนอนกลางวัน : การนอนกลางวันนานๆ โดยเฉพาะในช่วงบ่ายอาจรบกวนการนอนหลับตอนกลางคืน
  • สร้างบรรยากาศในห้องนอน : ควรมีความเงียบ มืด เย็น และสบาย ส่วนเตียงนอนและหมอน ควรเป็นสิ่งที่สามารถนอนหลับได้สบาย
  • ผ่อนคลายก่อนนอน : หลีกเลี่ยงการทำงาน เล่นมือถือ ดูทีวี หรือทำกิจกรรมที่กระตุ้นความตื่นตัวก่อนนอน ควรทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ฯ ก่อนจะนอน
  • หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น : งดชา กาแฟ ช็อกโกแลต น้ำอัดลม หรืออาหารมื้อหนัก ก่อนเข้านอน
  • งดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ : เพราะนิโคตินและแอลกอฮอล์ จะรบกวนการนอนหลับ
  • การออกกำลังกาย : การออกกำลังกายช่วยให้นอนหลับดีขึ้น แต่ก็ควรเลี่ยงการออกกำลังกายหนักอย่างหนักก่อนนอน

     2.) การปรับความคิด

  • ไม่กังวลกับการนอนหลับ : ความกังวลจะยิ่งทำให้นอนหลับนั้นยากขึ้น พยายามผ่อนคลายก่อนนอนให้ได้มากที่สุด
  • ไม่พยายามบังคับให้นอนหลับ : การพยายามบังคับให้นอนหลับ จะยิ่งทำให้นอนหลับยากขึ้น ให้ลุกขึ้นจากเตียง ทำกิจกรรมผ่อนคลายก่อน แล้วจึงกลับมานอนใหม่เมื่อรู้สึกง่วง

     3.) ปรับสภาพแวดล้อม

  • ปิดเครื่องมือสื่อสาร : ปิดทีวี มือถือ คอมพิวเตอร์ 1 ชั่วโมงก่อนนอน
  • ลดแสงสีฟ้า : แสงสีฟ้าจากหน้าจอโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ จะรบกวนการนอนหลับ ควรใช้แว่นกรองแสงสีฟ้า หรือปรับโหมดกลางคืนบนหน้าจอ หากต้องใช้อุปกรณ์จริง ๆ
  • ควบคุมอุณหภูมิ : อุณหภูมิห้องนอนควรเย็นสบาย หรือก็คือ ประมาณ 25-28 องศา จะเหมาะกับการนอนมากขึ้น

     ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะช่วยป้องกันให้คุณห่างไกลจากการเป็นโรคนอนไม่หลับได้มากขึ้น แต่ถ้าหากคุณเป็นโรคนี้ไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร เพราะโรคนี้ยังสามารถรักษาและบรรเทาอาการได้อยู่

     ซึ่งการรักษาโรคนอนไม่หลับนั้น มีหลายวิธี โดยจะแบ่งเป็น 2 แนวทางหลัก คือ การปรับพฤติกรรมการนอน และการรักษาแบบใช้ยา

     1.) การปรับพฤติกรรมการนอน

     เป็นการรักษาที่ได้ผลดีและปลอดภัย โดยไม่ต้องใช้ยา วิธีการนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างนิสัยการนอนที่ดี เช่น เข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลา หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ผ่อนคลายก่อนนอน จัดสภาพแวดล้อมห้องนอนให้เหมาะสม และฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การหายใจลึกๆ หรือการฝึกโยคะ เป็นต้น

     2.) การรักษาแบบใช้ยา

     เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลเร็ว แต่ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ ยาที่ใช้รักษา แต่ละชนิดมีกลไกการออกฤทธิ์ที่แตกต่างกันและอาจส่งผลเสียกับคนไข้แตกต่างกัน แพทย์จึงจะเป็นผู้จัดยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยพิจารณาจากสาเหตุของโรคนอนไม่หลับ สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย และยาอื่นๆ ที่ผู้ป่วยกำลังใช้อยู่ เพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อกัน

     แต่จะดีกว่าไหม ถ้าเรามีทางออกของปัญหาการเป็นโรคนอนไม่หลับแบบที่ไม่ต้องใช้ยา และไม่มีผลเสียต่อร่างกาย

     ขอนำเสนอ การดริปวิตามิน (Drip Vitamin) จากโปรแกรม IV Drip ของคลินิกเรา ซึ่งการดริปวิตามินจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารและนำไปใช้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

     ช่วยลดสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ เพิ่มระดับวิตามินและแร่ธาตุในร่างกาย ฟื้นฟูอาการเหนื่อยล้า และยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อีกทางด้วย

     เป็นต้น 

     และในการบรรยายวิธีการแก้ไขปัญหา คุณจะต้องไม่ลืมที่จะใส่รายละเอียดลงไปในการบรรยายนั้นด้วย

     โดยจะเป็นการอธิบายว่าในทุก ๆ ขั้นตอนของการให้บริการนั้นมีประโยชน์อย่างไร ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อทำให้ลูกค้าทราบขั้นตอนและทำความเข้าใจไปด้วยพร้อม ๆ กันได้

     3. ดึงดูดใจด้วยประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ

     ความคาดหวังที่ลูกค้ามีต่อบริการของคลินิก มีผลกระทบต่อความต้องการตัดสินใจเลือกใช้บริการของลูกค้าเป็นอย่างมาก

     ในส่วนนี้คุณจะต้องบอกประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ เมื่อลูกค้าสนใจจะใช้บริการจากคลินิกของคุณ

     โดยจะต้องบอกทุกรายละเอียดทั้งก่อนบริการ ระหว่างรับบริการ และหลังบริการ รวมถึงผลลัพธ์ที่ลูกค้าสามารถคาดหวังได้

     เพื่อทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในผลลัพธ์ที่จะได้หลังการบริการ และกระตุ้นให้ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะเลือกใช้บริการจากคลินิกของคุณมากขึ้น

     ซึ่งในการอธิบายให้ลูกค้าทราบก็คล้ายกับการบอกวิธีทางแก้ไขปัญหา เพียงแต่คุณจะต้องเสริมความน่าเชื่อถือของผลลัพธ์มากขึ้น

     โดยอาจนำภาพและวิดีโอจริงจากเคสตัวอย่าง หรือเคสจากลูกค้าที่ได้รับอนุญาตแล้ว มาใช้เป็นหลักฐานให้ลูกค้าได้ดู

     แนบภาพและวิดีโอจริงจากเคสตัวอย่าง หรือเคสจากลูกค้าที่เคยใช้บริการลงใน Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingของคุณ ก็จะยิ่งช่วยให้ผลลัพธ์หลังการบริการดูมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น

    4. เสริมความน่าเชื่อถือด้วยรีวิว

     เวลาที่เราต้องการซื้อสินค้า เราก็จะเช็คความน่าเชื่อถือจากการดูรีวิวของสินค้าเหล่านั้น

     และก็เช่นเดียวกัน ถ้าลูกค้าต้องการเลือกรับบริการ ลูกค้าก็จะเลือกบริการผ่านการดูจากรีวิวดี ๆ ที่แต่ละคลินิกมี

     ดังนั้น การแสดงผลลัพธ์จริงจากลูกค้าที่เคยใช้บริการจึงเป็นเครื่องที่จะพิสูจน์ให้ลูกค้าได้ทราบว่า บริการของคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingของคุณ มีดีจริง ๆ

    โดยการแสดงรีวิวนั้นจะต้องเป็นการแสดงรีวิวที่เป็นเชิงบวกเท่านั้น และรีวิวนั้นจะต้องมาจากประสบการณ์การใช้บริการของลูกค้าจริงเสมอ

     ลูกค้าจึงจะเกิดความเชื่อมั่นกับการบริการของคลินิก และช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจเลือกรับบริการจากคลินิกของคุณได้

     Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingที่มีส่วนนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าที่ยังลังเลอยู่ แต่ยังสามารถดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ที่อาจเกิดความสนใจในบริการของคลินิกได้อีกด้วย

     และนี่คือ เทคนิคการนำเสนอรีวิวที่มีประสิทธิภาพ ที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingของคุณนะได้ครับ

  • เลือกใช้รีวิวที่หลากหลาย: นำเสนอรีวิวจากลูกค้าที่มีปัญหา และความต้องการที่แตกต่างกัน
  • เน้นรีวิวที่มีผลลัพธ์ชัดเจน: เลือกรีวิวที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นหลังเข้ารับบริการชัดเจน
  • ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย: เขียนรีวิวให้กระชับ ชัดเจน ตรงประเด็น
  • ใส่รูปภาพประกอบ: แสดงภาพ Before & After เปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ชัดเจน
  • บอกเล่าเรื่องราว: นำเสนอรีวิวในรูปแบบการเล่าเรื่อง สร้างความน่าสนใจให้แก่ผู้ชมรีวิว
  • แสดงรีวิวจากแหล่งต่างๆ: รวบรวมรีวิวจากหลายช่องทาง เช่น Facebook, Instagram, Website เป็นต้น

     5. การแจ้งรายละเอียดราคาให้ชัดเจน

     การแจ้งราคา หรือแพ็คเกจต่าง ๆ ควรทำให้สามารถสังเกตเห็นได้ชัดเจน

     การแจ้งราคาก็เหมือนการรีวิว ควรมีความโปร่งใส และพิสูจน์ได้ว่า เป็นราคาจริง

     ถึงแม้ว่า ลูกค้าที่เกิดความสนใจจะต้องติดต่อสอบถามกลับมาที่ช่องทางของคลินิกอีกครั้ง แต่คุณก็ไม่ควรมองข้ามในจุดนี้

     ยิ่งในปัจจุบันมีกฎหมายที่บังคับเกี่ยวกับการแจ้งราคาสินค้าที่ชัดเจนแล้ว คุณยิ่งต้องแจ้งราคาให้ชัดเจนตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

     ซึ่งการแจ้งราคานี้ จะต้องรวมไปถึงการแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ร่วมด้วย เพื่อการแสดงความจริงใจที่มีต่อลูกค้า และทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจในการให้บริการของคลินิก

     โดยในการแจ้งราคาอาจมีข้อกำหนดในการแจ้งรายละเอียดดังนี้

  • แสดงราคาแพ็คเกจต่างๆ เป็นการแสดงราคาแพ็คเกจหลักและแพ็คเกจเสริมทั้งหมด
  • อธิบายรายละเอียดของแพ็คเกจ เป็นการบอกรายละเอียดของบริการที่รวมอยู่ในแพ็คเกจ
  • แยกค่าใช้จ่ายต่างๆ  เช่น ค่าแพทย์ ค่ายา ค่าอุปกรณ์
  • เสนอราคาพิเศษ เป็นการนำเสนอราคาพิเศษ โปรโมชั่น ส่วนลด ดึงดูดลูกค้า
  • เปรียบเทียบราคา เป็นการเปรียบเทียบราคาแพ็คเกจกับแพ็คเกจอื่น ๆ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่าและเป็นหารแนะนำแพ็คเกจอื่นให้ลูกค้าทราบเพิ่มเติมด้วย

     6. การจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นธุรกิจ

     การจัดโปรโมชันคือแผนการตลาดที่ทุกธุรกิจนิยมใช้กัน

     เป็นเรื่องปกติที่เหล่านักทำธุรกิจจะคิดแผนการตลาดที่ดึงดูดใจลูกค้า เนื่องในวันสำคัญหรือเทศกาลต่าง ๆ

     เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้า และเป็นการเช็คว่าธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingของคุณเป็นที่รู้จัก หรือมีชื่อเสียงมากขึ้นแค่ไหน

     และผมขอแนะนำ 5 อันดับยอดนิยมในการจัดโปรโมชันสำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging

     1.) แพ็คเกจราคาพิเศษ เช่น

  • จัดโปรโมชันแพ็คเกจรวมบริการยอดนิยมในราคาพิเศษ
  • เสนอแพ็คเกจตรวจสุขภาพและดูแลแบบองค์รวม ตรวจฮอร์โมน วิตามิน สารอาหาร พร้อมคำแนะนำด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย

     2.) ลดราคา เช่น

  • เสนอส่วนลดสำหรับบริการเดี่ยว เช่น ตรวจค่าตับ ลด 10% ตรวจเลือด ลด 20% ตรวจสุขภาพเข่า ลด 30% เป็นต้น
  • มอบส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าใหม่ หรือลูกค้าที่มาใช้บริการครั้งแรก
  • เสนอส่วนลดเป็นโปรโมชันตามเทศกาล

     3.) แถมฟรี เช่น

  • แถมฟรีผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ เมื่อซื้อแพ็คเกจหรือบริการครบตามที่กำหนด
  • มอบคอร์สดูแลต่าง ๆ ฟรี เมื่อใช้บริการครบตามจำนวนที่กำหนด

     4.) จองคิวล่วงหน้ารับส่วนลด เช่น

  • เสนอส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้าที่จองคิวล่วงหน้า
  • มอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติม เช่น เลือกเวลาเข้ารับบริการได้ก่อน เป็นต้น

     5.) โปรโมชั่นสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เช่น

  • เสนอโปรโมชั่นเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น โปรโมชั่นสำหรับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป , โปรโมชั่นสำหรับผู้หญิง , โปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่มาเป็นคู่ ฯ

 

     นี่คือตัวอย่างในการจัดโปรโมชันต่าง ๆ นะครับ ยังมีนอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชันอีกหลายรูปแบบที่ธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingยังสามารถทำได้

     ทุกคนลองนำไปปรับใช้ในการจัดโปรโมชันให้กับคลินิกของตนเองกันดูนะครับ

     7. การ Call to Action ที่สำคัญที่สุด

     Sale Page ที่มีองค์ประกอบมาจากเทคนิคข้างต้น จะเรียกว่า Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกที่สมบูรณ์ไม่ได้เลยหากขาด Call to Action

     ทุกคนทราบจุดประสงค์ในการสร้าง Sale Page กันอยู่แล้ว นั่นก็คือ การปิดการขายภายในหนึ่งหน้าเว็บไซต์

    การ Call to Action จึงเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกรับบริการจากคลินิกของคุณให้ได้ในที่สุด และจุดนี้เอง จะเป็นจุดสำคัญที่ทำให้ Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingของคุณ สามารถปิดการขายได้

     โดยในส่วนสุดท้ายนี้จะเป็นการนำเสนอทางในการติดต่อกลับมาที่คลินิกของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญชวนให้ติดต่อสอบถาม การเชิญชวนให้จองคิว หรือการกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกซื้อแพ็คเกจที่ลูกค้ามีความสนใจ

     ซึ่งช่องทางการติดต่อ ควรจะอยู่ในรูปแบบปุ่มกดที่มีความโดดเด่น สามารถสังเกตเห็นได้ง่าย และอาจกระจายตัวอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของ Sale Page 

     และจะนิยมใส่ข้อความกำกับต่าง ๆ เพื่อสร้างความน่าสนใจ เช่น “ติดต่อสอบถาม”, “จองคิว”, “ซื้อแพ็คเกจ”, “กดที่นี่” ฯ

     รู้จักครบทั้ง 7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-aging แล้วนะครับ 

     พอจะทำให้คุณเข้าใจการสร้าง Sale Page เพื่อการใช้ประโยชน์ทางด้านการตลาดออนไลน์มากขึ้นหรือไม่ครับ

     การสร้าง Sale Page ด้วยตนเอง จะมีข้อดีตรงที่คุณสามารถควบคุมข้อมูล และการเรียบเรียงต่าง ๆ ให้ออกมาตรงตามความต้องการได้

     แต่ถ้าหากคุณเป็นมือใหม่ และเพิ่งเริ่มต้นสร้าง Sale Page ของตนเอง การสร้าง Sale Page ด้วยตนเอง ก็จะมีข้อเสียเป็นการที่คุณจะต้องให้เวลากับการฝึกฝนเรียบเรียงข้อมูลและเขียนขึ้นใหม่ในสไตล์ของตนเองเป็นเวลานาน

     เพื่อให้ได้มาซึ่ง Sale Page ที่มีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingมากที่สุด

    อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคิดว่าธุรกิจคลินิกเวชศาสตร์ชะลอวัย Anti-agingของคุณไม่สามารถรอเวลาได้ ติดต่อเราสิครับ เรามีทีมงานที่พร้อมให้คำปรึกษาและซัพพอร์ตคุณในด้านการทำ Sale Page เพื่อธุรกิจ และการทำการตลาดออนไลน์ต่าง ๆ

หากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ง่าย ๆ

เพียงคลิกที่นี่ 🔻

ตัวอย่างเว็บไซต์

คลิกรูปภาพเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์

คลิกรูปภาพเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์

IMPEL MARKETING บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์

IMPEL MARKETING จากประสบการณ์ ด้านการตลาดออนไลน์มากกว่า 10 ปี

เราจะให้คำปรึกษาถึงแก่นการทำตลาดออนไลน์ให้คุณมียอดขายถึงขีดสูงสุดในทุกประเภทสินค้าและบริการ

การันตีผลงานทีมงานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีเราสร้างยอดขายให้ธุรกิจมากกว่า 10 แบรนด์ ยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท