7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรม

     ถ้าความคาดหวังของธุรกิจคลินิกทันตกรรมของคุณ คือ การมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างไม่ขาดสาย

     ทำไมไม่ลองการตลาดออนไลน์ด้วยการสร้าง Sale Page เพื่อดึงดูดลูกค้าดูล่ะครับ ?

     หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินกันมาไม่น้อยแล้วถึงความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็วของการทำการตลาดออนไลน์

     โดยการสร้างและออกแบบให้ Sale Page สามารถดึงดูดความสนใจจากลูกค้า ผ่านการนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ตามที่คุณต้องการ

     รวมไปถึงสามารถกระตุ้นความต้องการของกลุ่มลูกค้า จนสามารถทำการปิดการขายได้ในที่สุด

     ไม่เท่านั้น หาก Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรมของคุณ มีการจัดวางลำดับข้อมูลที่ดี ก็เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคลินิกได้

     อีกทั้งยังช่วยสร้างแรงดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ และเพิ่มแนวโน้มการจูงใจให้มียอดขายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย

     รู้อย่างนี้แล้ว จะอดใจไม่ลองศึกษาการทำการตลาดออนไลน์ด้วย การสร้าง Sale Page สำหรับคลินิกธุรกิจทันตกรรม ของคุณหรือครับ ?

     ผมรับรองเลยว่าถ้าได้ลองศึกษาแล้ว คุณจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจคลินิกทันตกรรมของคุณได้อย่างแน่นอน !

7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรม

     1. การพูดถึงปัญหา

     การสร้าง Sale Page มักมีจุดเริ่มต้นจากปัญหาของลูกค้า

     การเริ่มต้นการนำเสนอเรื่องราวด้วยปัญหาเป็นที่นิยมมากในวงการการสร้าง Sale Page 

     เพื่อเป็นการแสดงถึงความเข้าใจในกลุ่มลูกค้าจึงอาจนำปัญหาที่ลูกค้ามีข้อสงสัย หรือปัญหาที่พบบ่อย และปัญหาที่ลูกค้ากำลังเผชิญอยู่ มาเป็นหัวข้อเริ่มต้น

     เพราะปัญหาสุขภาพช่องปาก เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องเคยเป็น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นประเด็นปัญหาใด จึงสามารถนำมาเป็นหัวข้อได้เสมอ

     เช่น ฟันผุ ฟันแตก เหงือกร่น เหงือกอักเสบ ฟันเหลือง ฟันไม่เรียง ฯลฯ

     โดยอาจเป็นการตั้งหัวข้อในรูปแบบของประโยค หรือคำถาม เพื่อกระตุ้นความสนใจของกลุ่มลูกค้า

เช่น

     “รอยยิ้มไม่สวย ส่งผลต่อความมั่นใจของคุณหรือไม่?”

     “ฟันผุเรื้อรัง อาจนำไปสู่อาการปวดฟัน เหงือกอักเสบ และปัญหาร้ายแรงอื่นๆ”

     “รู้หรือไม่ ปัญหาสุขภาพช่องปาก ส่งผลต่อภาพลักษณ์ การทำงาน และความสัมพันธ์ของคุณ”

     จากนั้นจึงอธิบายรายละเอียดว่าปัญหามีสาเหตุมาจากอะไร มีผลกระทบต่อชีวิตของลูกค้าอย่างไร

     และปิดท้ายด้วยการเกริ่นถึงวิธีแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้กลุ่มลูกค้าอยากติดตามอ่านการแก้ไขปัญหาต่อไป

     2. นำเสนอการแก้ไข

     อยากให้ลูกค้าเลือกใช้บริการก็ต้องนำเสนอบริการจากคลินิกให้โดดเด่นที่สุด

     หลังจากการสร้างอารมณ์ให้ลูกค้าคล้อยตามจากการบรรยายปัญหาทั้งหมดแล้ว คุณจะต้องนำเสนอวิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้ให้กับลูกค้าด้วย

     โดยจะต้องมีการนำเสนอบริการของคลินิกควบคู่ไปกับการอธิบายวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ

     เน้นการอธิบายที่จะทำให้บริการของคลินิกมีจุดเด่น แตกต่าง และสามารถดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้

     เพื่อสร้างความมั่นใจที่ลูกค้ามีต่อบริการของคลินิก และทำให้ลูกค้าเกิดความต้องการอยากใช้บริการของคลินิกมากที่สุด

     ซึ่งคุณอาจใช้องค์ประกอบเหล่านี้ช่วยให้การนำเสนอการบริการของคุณมีความโดดเด่นขึ้นได้

1.) การอธิบายวิธีการรักษาที่ทันสมัย

  • เป็นการอธิบายเน้นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เครื่องมือทันตกรรมที่ทันสมัย
  • อธิบายถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความรวดเร็วของเทคโนโลยี
  • การยกตัวอย่างวิธีการรักษาเฉพาะทาง เช่น การฟอกสีฟันแบบ Zoom, การผ่าตัดรากฟันด้วยกล้องจุลทรรศน์ เป็นต้น

2.) การเน้นย้ำประสบการณ์ของทีมแพทย์

  • เป็นการแนะนำทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีวุฒิบัตร มีประสบการณ์ และโชว์รางวัล
  • เน้นย้ำความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง แพทย์เฉพาะทาง
  • สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

3.) การอธิบายขั้นตอนการรักษา

  • อธิบายขั้นตอนการรักษาอย่างละเอียด ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
  • บอกถึงระยะเวลา รวมถึงค่าใช้จ่าย และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
  • บอกข้อมูลเผื่อการเตรียมความพร้อมให้ลูกค้า เพื่อลดความกังวลใจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

4.) การบอกถึงผลลัพธ์ที่เป็นไปได้

  • เป็นการอธิบายผลลัพธ์ที่ชัดเจน รูปธรรม ไม่ปิดบัง
  • นำเสนอการเปรียบเทียบก่อนและหลังการรักษา
  • เป็นการสร้างแรงจูงใจ เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้ามสามารถตัดสินใจได้

     หากมีการนำเสนอการแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ Sale Page ของคุณก็จะสามารถดึงดูดลูกค้า และเพิ่มโอกาสปิดการขายได้สำเร็จมากขึ้น

     3. บอกประโยชน์ที่ได้รับ

     การเน้นย้ำผลลัพธ์ที่ลูกค้าจะได้รับหลังใช้บริการ จะช่วยเพิ่มแนวโน้มความต้องการของลูกค้าให้มีมากขึ้นได้

     เป็นการบอกถึงประโยชน์ทั้งหมดที่ลูกค้าจะได้จากการรับจากการรักษา โดยข้อมูลจะต้องมีความละเอียดและทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่ามากที่สุด

     เนื่องจากส่วนนี้จะเป็นการกระตุ้นความต้องการด้วยการแสดงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และเป็นไปในเชิงบวกทั้งหมด

เช่น

การแสดงรูปของก่อนการรักษาและรูปหลังการรักษาที่สามารถมองเห็นหารเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน

หรือภาพและวิดีโอการรีวิวของลูกค้าที่เคยมาใช้บริการคลินิกทันตกรรมของคุณแล้ว

เป็นต้น

     เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถโน้มน้าวใจและสร้างแรงกระตุ้นการตัดสินใจแก่ลูกค้าได้ไม่แพ้ส่วนสำคัญส่วนอื่นเลย

     ดังนั้น การบอกประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมากเช่นเดียวกัน

     4. แสดงการรีวิว

     การรีวิวเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อความต้องการของลูกค้า

     ไม่ว่าใคร ๆ  ก็ต้องเคยทำ อยากจะเลือกใช้บริการ หรือซื้อสินค้าอะไร ก็ต้องไปตามดูการรีวิวก่อน

     สินค้าและบริการใด มีการรีวิวที่มาจากลูกค้าจริง และมีคะแนนสูงมาก ๆ มักจะถูกเลือกเป็นหนึ่งให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเสมอ

     ดังนั้น การแสดงการรีวิวจึงเป็นส่วนสำคัญที่ควรใส่ไว้ใน Sale Page ของคุณด้วย

     โดยการรีวิวนั้นมีอยู่หลากหลายรูปแบบ คุณจึงควรศึกษาและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการนำมาแสดงด้วย

     ซึ่งคุณสามารถนำรูปแบบของการรีวิวที่เป็นที่นิยมเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมสำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรมของคุณได้

1.) รีวิวแบบวิดีโอ

    • เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
    • สามารถดึงดูดใจลูกค้าด้วยภาพและเสียง
    • สามารถนำเสนอรีวิวได้อย่างละเอียด
    • มีการแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจน

2.) รีวิวแบบภาพ

    • มีรูปแบบที่เข้าถึงง่าย
    • มีการแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจน
    • เหมาะสำหรับการแชร์บนโซเชียลมีเดีย

3.) รีวิวแบบข้อความ

    • เป็นรูปแบบที่อ่านง่าย
    • สามารถแชร์ข้อมูลได้ครบถ้วน
    • เหมาะสำหรับการค้นหาข้อมูล

4.) รีวิวจาก Influencer

    • สามารถดึงดูดความสนใจจากกลุ่มลูกค้าได้
    • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคลินิกได้

5.) รีวิวจากลูกค้าจริง

    • เพิ่มสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคลินิกได้
    • สามารถแสดงความคิดเห็นที่ตรงไปตรงมาได้ดี

     5. การบอกราคาที่ชัดเจน

     การแจ้งราคาที่ชัดเจนเป็นสิ่งที่แสดงให้ลูกค้าเห็นถึงความโปร่งใสของคลินิกได้

     การแจ้งราคาบริการของคลินิกทันตกรรมอย่างชัดเจนเป็นสิ่งที่ควรทำ

     เพราะไม่ใช่แค่การทำตามข้อกฎหมาย แต่เป็นการแสดงถึงความโปร่งใส และความจริงใจต่อลูกค้าด้วย

     การแจ้งราคาของบริการจะต้องมีความชัดเจนและครบถ้วน สามารถแยกได้ว่าค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มาจาก รายละเอียดของบริการของอะไร

     โดยการนำเสนอราคามีองค์ประกอบที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ดังนี้

1.) แสดงราคาเริ่มต้น เช่น “ฟอกสีฟัน เริ่มต้นเพียง 9,900 บาท” “จัดฟัน เริ่มต้นเพียง 39,900 บาท” เป็นต้น

2.) แสดงแพ็กเกจ 

     ซึ่งสามารถแสดงเป็นแพ็กเกจการบริการได้ตามความเหมาะสำหรับลูกค้า โดยอาจมีการแทรกการแนะนำแพ็กเกจอื่น เพื่อทำให้ลูกค้าสนใจบริการอื่นตามด้วย

 เช่น “แพ็กเกจรอยยิ้มสวย ฟอกสีฟัน + จัดฟัน เริ่มต้นเพียง 59,900 บาท” , 

“แพ็กเกจสุขภาพช่องปาก ขูดหินน้ำลาย + เคลือบฟลูออไรด์ เพียง 1,999 บาท” 

เป็นต้น

3.) แสดงรายละเอียดราคา เป็นการแสดงรายละเอียดราคาของบริการแต่ละรายการ

เช่น การฟอกสีฟัน 

– ฟอกสีฟัน 1 ครั้ง 9,900 บาท

– ฟอกสีฟัน 2 ครั้ง 18,900 บาท

– ฟอกสีฟัน 3 ครั้ง 27,900 บาท

4.) การแสดงโปรโมชั่น เพื่อสร้างแรงดึงดูดใจกับลูกค้าและกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดความต้องการใช้บริการ

เช่น

 “รับส่วนลด 10% เมื่อจองคิวภายใน 30 วัน”

 “สมัครสมาชิก รับฟรี! บริการขูดหินน้ำลาย”

5.) แสดงตัวอย่างเคสให้ลูกค้าทราบ เป็นการแสดงตัวอย่างผลลัพธ์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้าและกระตุ้นให้ลูกค้าสอยากใช้บบริการจากคลินิกของคุณ

     6. การจัดโปรโมชัน

     กลยุทธ์การจัดโปรโมชัน ไม่ว่าจะธุรกิจใด มักกระตุ้นลูกค้าได้ผลเสมอ !

    การจัดโปรโมชันเป็นหนึ่งในวิธีที่ ผู้ทำธุรกิจรู้จักกันเป็นอย่างดี

     แม้จะเป็น Sale Page คุณก็ยังสามารถนำมาปรับใช้เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของกลุ่มลูกค้าได้

     ผมมี 5 อันดับการจัดโปรโมชันที่คลินิกทันตกรรมนิยมใช้มานำเสนอครับ

1.) ส่วนลด: เสนอส่วนลดสำหรับบริการ เป็นวิธีดึงดูดใจลูกค้าที่ง่ายและได้ผลดี ตัวอย่างเช่น “รับส่วนลด 10% สำหรับทุกบริการ” หรือ “ฟอกสีฟัน ลด 20%”

2.) แจกฟรี: แจกฟรีบริการ เป็นการดึงดูดใจลูกค้าและกระตุ้นให้ลองใช้บริการ ตัวอย่างเช่น “ฟรี! ขูดหินน้ำลาย เมื่อสมัครสมาชิก” หรือ “ฟอกสีฟันฟรี! เมื่อจัดฟันกับคลินิกของเรา”

3.) ซื้อ 1 แถม 1: เสนอโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 เป็นการเสนอความคุ้มค่า ดึงดูดใจลูกค้า ตัวอย่างเช่น “จัดฟัน 1 ขากรรไกร แถมฟรี! อีก 1 ขากรรไกร” หรือ “ฟอกสีฟัน 1 ครั้ง แถมฟรี! เคลือบฟลูออไรด์”ฟ

4.) โปรโมชันตามเทศกาล: เสนอโปรโมชันพิเศษตามเทศกาล ดึงดูดใจลูกค้า กระตุ้นให้ใช้บริการ ตัวอย่างเช่น “โปรโมชันวันแม่ ลด 15% สำหรับทุกบริการ” หรือ “โปรโมชันปีใหม่ ฟอกสีฟัน 50%”

     การจัดโปรโมชันนี้ ขึ้นอยู่กับแผนการตลาดของคุณนะครับ ลองวิเคราะห์ดูว่าควรจะเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจคลินิกของคุณมากที่สุด

     7. Call to Action

     เป็นส่วนสุดท้ายที่ Sale Page ของคุณจะขาดไปไม่ได้ เพื่อที่เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการจากคลินิกของคุณและการปิดการขายให้ได้

     ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของปุ่มที่มีความโดดเด่นมากกว่าส่วนอื่นใน Sale Page และอาจแทรกอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของ Sale Page ได้

     มีจุดประสงค์เพื่อการเชิญชวนให้ลูกค้าที่อ่าน Sale Page จนจบ สามารถเลือกหนทางการติดต่อกลับได้

     ไม่ว่าจะเป็นความต้องการ การติดต่อสอบถาม จองคิว หรือรับโปรโมชัน ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้โดยที่ลูกค้าไม่ออกไปติดต่อคลินิกอื่นที่มีบริการเดียวกัน

     โดยอาจมีการใส่ข้อความเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้ามากขึ้น

เช่น

  • สำหรับการติดต่อสอบถาม:

“โทรหาเราตอนนี้!”

“ทักไลน์มาปรึกษากับคุณหมอฟรี!”

“คลิกเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม!”

  • สำหรับการจองคิว:

“จองคิวรับโปรโมชันพิเศษ!”

“จองคิวฟรี! ไม่ต้องรอคิวนาน”

“จองคิวออนไลน์ได้ง่ายๆ 24 ชั่วโมง”

  • สำหรับการรับโปรโมชัน:

“อย่าพลาดโปรโมชันสุดคุ้ม!”

“รับส่วนลดทันที! เมื่อจองคิวภายในวันนี้”

“คลิกเพื่อรับสิทธิพิเศษ!”

     เป็นอย่างไรบ้างครับทุกท่าน 7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรม สามารถเข้าใจได้ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ

     การที่ Sale Page จะสามารถเป็นเครื่องมือของการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น จะต้องใช้เวลาและการฝึกฝนเป็นอย่างมาก

     แต่ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้นะครับ ผมหวังว่าความรู้ในการสร้าง Sale Page นี้จะสามารถทำให้คุณเริ่มต้นสร้าง Sale Page ที่ตรงตามความต้องการของคุณได้

     อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณคิดว่า 7 เทคนิคการสร้าง Sale Page สำหรับธุรกิจคลินิกทันตกรรม ยังไม่สามารถช่วยให้คุณสร้าง Sale Page ที่ตอบโจทย์ได้

     ติดต่อเราสิครับ เรามีทีมงานที่พร้อมให้บริการด้านการตลาดออนไลน์ และสามารถช่วยให้คุณมี Sale Page ที่มีประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องเสียเวลาทำด้วยตนเอง

ติดต่อเราที่ 🔻

ตัวอย่างเว็บไซต์

คลิกรูปภาพเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์

คลิกรูปภาพเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์

IMPEL MARKETING บริการให้คำปรึกษาด้านธุรกิจออนไลน์

IMPEL MARKETING จากประสบการณ์ ด้านการตลาดออนไลน์มากกว่า 10 ปี

เราจะให้คำปรึกษาถึงแก่นการทำตลาดออนไลน์ให้คุณมียอดขายถึงขีดสูงสุดในทุกประเภทสินค้าและบริการ

การันตีผลงานทีมงานด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีเราสร้างยอดขายให้ธุรกิจมากกว่า 10 แบรนด์ ยอดขายรวมกว่า 500 ล้านบาท